UV Index คืออะไร
ดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในชื่อภาษาไทย หรือ UV Index คือความแรงของแดด โดยวัดจากปริมาณความเข้มข้นของรังสี UV ที่ส่องลงมายังพื้นผิวโลก โดยมีนักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดาเป็นคนคิดค้นได้ในปี 2535 และในปี 2537 องค์กรอนามัยโลก และองค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกของสหประชาชาติได้นำมาปรับใช้ใหม่
ค่า UV Index ที่เช็คได้ตามอินเตอร์เน็ต หรือแม้กระทั่ง แอปพลิเคชันโทรศัพท์ ก็บอกได้ว่า วันนี้ความรุนแรงของรังสี UV มากมายแค่ไหน ซึ่งเราสามารถเช็คได้ทุกวัน แต่อย่างไรก็ตามการปกป้องชั้นผิวด้วยครีมกันแดดทุกวัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรทำตาม
ความรุนแรงของ UV Index มีกี่ระดับ
- สีเขียว (UV Index 0.29) : ระดับความรุนแรงต่ำควรสวมกันแดดในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง
- สีเหลือง (UV Index 3-5.9) : ระดับความรุนแรงปานกลาง ควรปกปิดด้วยเสื้อผ้า เลี่ยงในช่วงเที่ยงวันที่มีแดดสูง
- สีส้ม (UV Index 6-7.9) : ระดับความรุนแรงสูง ควรปกปิดด้วยเสื้อผ้า สวมหมวก ใส่แว่น ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 และ PA 3+ อยู่กลางแจ้งไม่ควรเกิน 3 ชั่วโมง
- สีแดง (UV Index 8-10.9) : ระดับความรุนแรงสูงมาก ควรสวมเสื้อผ้ากันแดด สวมแว่นกันแดด สวมหมวกปีกกว้าง ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 และ PA 3+ ไม่ควรอยู่กลางแดดเวลานาน
- สีม่วง (UV Index 11+) : ระดับความรุนแรงสูงจัด ควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมแว่นกันแดด หมวกที่ปกปิดอย่างมิดชิด ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 และ PA 3+ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งที่นานเกิน 3 ชั่วโมง
ครีมกันแดด ควรมีค่า SPF ระดับเท่าไร
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้ให้คำแนะนำไว้ว่า การเลือก SPF เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ ว่าต้องการป้องกันมากน้อยเพียงใด โดยให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การเลือกครีมกันแดด ไม่ควรเลือก SPF ต่ำว่า 15 และเลือกใช้ได้ไปจนถึง SPF 50
ความเข้าใจผิดที่คนเป็นกันเยอะ ก็คือคิดว่า SPF 100 จะสามารถป้องกันรังสีได้ 100% แต่มันไม่ใช่ความจริง เพราะในทุกวันนี้ยังไม่มีหลักฐานชิ้นใดที่สามารถพิสูจน์ความจริงส่วนนี้ได้ โดยเราจะพาไปดูผลลัพธ์ที่ได้จากค่า SPF แต่ละระดับกัน
1. SPF 15
ระดับการป้องกันแสงแดดจะดูดซับรังสี UV ได้ประมาณ 93% ค่า SPF นี้จะปล่อยให้ผิวของคุณถูกทำร้ายประมาณ 7% ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ออกข้างนอกบ่อย หรือใช้เวลาออกน้อยกว่า 20 นาทีต่อครั้ง ถือว่าเป็นปริมาณการใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุด
2. SPF 30
ปริมาณอยู่ในระดับกลางที่ดี และพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนอกเหนือจากครีมกันแดดเพียงอย่างเดียว ค่า SPF 30 จะดูดซับรังสี UV ได้ประมาณ 97 % ซึ่งระดับนี้ให้การปกป้องที่ดียิ่งขึ้นกว่าค่า SPF 15 เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมนอกบ้าน
3. SPF 50
ระดับที่สูงที่สุด ในปัจจุบันนี้แนะนำว่า ค่า SPF 50 จะดูดซับรังสี UV ได้ประมาณ 98 % นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ใช้เวลาค่อนข้างมากอยู่กลางแจ้ง ตัวอย่างเช่น หากคุณเดินทางไกลจากบ้านไปทำงาน หรือคุณวางแผนที่จะออกไปวิ่งในตอนกลางวัน เปอร์เซ็นต์การปกป้องที่มากเป็นพิเศษนั้น เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
ใช้กันแดดตัวไหนดี ถึงจะป้องกัน UV ได้
ความจริงหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเกี่ยวกับครีมกันแดด คือ ให้การปกป้องแบบ broad-spectrum นั่นหมายถึงผิวของคุณจะได้รับการปกป้องจากทั้งรังสี UVA และ UVB โดยรังสี UVB จะเผาไหม้ผิวหนังชั้นนอก ในขณะที่รังสี UVA จะทะลุผ่านผิวหนังชั้นนอกลงไปทำร้ายเซลล์ผิวและเร่งให้เกิดสัญญาณเบื้องต้นของปัญหาผิวแก่ก่อนวัย เช่น เส้นริ้วรอยร่องตื้น , ริ้วรอยร่องลึก และจุดด่างดำจากแสงแดด
ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำเพื่อผิวของคุณได้ จึงจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีและมีประสิทธิภาพการปกป้องจากการถูกทำร้ายของรังสี UVA และ UVB อย่าง
ลอรีอัลปารีส ยูวีดีเฟนเดอร์ ด้วย
SPF50+/ PA++++ พร้อมเทคโนโลยี
Mexoryl ที่เป็นสารกันแดดเอกสิทธิ์เฉพาะของทาง L'Oréal
มีประสิทธิภาพ ช่วย
ปกป้อง UV ได้ถึง 98% ในเสี้ยววินาที มีความเสถียรสูงและสามารถป้องกันรังสี UV ได้แบบ Broad Spectrum ผสานส่วนผสมที่ดีที่สุดของสกินแคร์อย่าง Niacinamide ที่ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ จุดด่างดำและริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดจากแสงแดด เสมือนต่อเวลาผิวให้อ่อนเยาว์ยิ่งกว่าอายุจริง